กกร. ปรับ GDP ปี 2568 โตได้ถึง 2.2% ส่งออก 3% กังวลบางอุตฯ ใช้ Local Content ไม่ถึง 40%

06 สิงหาคม 2568
กกร. ปรับ GDP ปี 2568 โตได้ถึง 2.2% ส่งออก 3% กังวลบางอุตฯ ใช้ Local Content ไม่ถึง 40%

กกร. หลังเจรจากับทรัมป์สำเร็จที่ 19% ทำบรรยากาศเศรษฐกิจดีขึ้น คาด GDP โตได้ในกรอบเพิ่มเป็น 1.8-2.2% ส่งออกอยู่ที่ 2-3% แม้ครึ่งปีหลังจะยังต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงอีกมาก ด้านอุตสาหกรรมกังวลบางกลุ่ม Local Content ไม่ถึง 40% หนึ่งในเงื่อนไขทรัมป์บีบให้ต้องถึง 60%

นายผยง ศรีวนิช ประธานกรรมการสมาคมธนาคารไทย กล่าวในฐานะประธานที่ประชุม คณะกรรมการน่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เศรษฐกิจโลกมีทิศทางดีขึ้น หลังสหรัฐประกาศข้อตกลงด้านภาษีกับหลายประเทศ อัตราภาษีศุลกากรส่วนใหญ่ปรับลดลงกว่าที่สหรัฐประกาศเมื่อเดือนเมษายน โดยเฉพาะสำหรับประเทศในเอเชียและอาเซียน ประมาณการเศรษฐกิจโลกปี 2568

โดย IMF ปรับเพิ่มเป็นเติบโต 3% จากเดิม 2.8% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่อยู่ประมาณ 3.5% สะท้อนภาวะชะลอตัวจากผลของกำแพงภาษีสูง และความไม่ชัดเจนในรายละเอียดของการดำเนินการ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภาษีสินค้า Transshipment และการกำหนดสัดส่วน Local Content ของแต่ละประเทศ

ประเทศไทยต้องเร่งปรับตัวรับมือทั้งในระยะสั้น และการเปลี่ยนผ่านในระยะข้างหน้า ในระยะสั้นการแข่งขันด้านราคาจะเพิ่มขึ้นทั้งสินค้าที่ไทยส่งออกและสินค้าที่ขายในประเทศที่จะแข่งขันกับสินค้าที่ไทยเปิดตลาดนำเข้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะกระทบกลุ่มที่มี Margin ต่ำ และต้องเร่งสำรวจการใช้ Local Content เพื่อลดความเสี่ยงภาษี Transshipment รวมถึงบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในส่วนพิธีการศุลกากร และการตรวจสอบมาตรฐานสินค้าที่ขายในประเทศ

ขณะที่นโยบายการค้าของสหรัฐเป็น Wake-up Call ให้ไทยใช้โอกาสนี้ในการปรับตัวเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวของภาคเอกชน โดยเฉพาะ SMEs ทั้งการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม กำหนด Priority Sectors ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของประเทศ ยกระดับกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรมต้นน้ำเพื่อเพิ่ม Local Content เพิ่ม Productivity ลดต้นทุน ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม และยกระดับทักษะแรงงานการจ้างงานของแรงงานไทยในประเทศ แรงงานต่างด้าว และมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน

เศรษฐกิจไทยปี’68 มีแนวโน้มขยายตัวได้ที่ 1.8-2.2% ปรับเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมที่ 1.5-2.0% ส่วนการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัว 2-3% สูงกว่าประมาณการเดิมเช่นกัน โดยความสำเร็จจากการเจรจาการค้าส่งผลให้ไทยถูกเรียกเก็บภาษีที่ 19% แทน 36% ซึ่งยังต้องให้ความสำคัญกับรายละเอียดที่ต้องมีการเจรจากันต่อไป เบื้องต้นทำให้ไทยไม่เสียเปรียบประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็น Worst Case Scenario

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มชะลอตัว โดยการส่งออกแผ่วลงหลังหมดปัจจัยชั่วคราวจากการเร่งส่งออก การแข่งขันด้านราคาที่มากขึ้น ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นรวมถึงปัญหาเศรษฐกิจนอกระบบ และกำลังซื้อของผู้บริโภคสหรัฐที่ลดลงจากเงินเฟ้อ ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวชะลอตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะ Short Haul ที่ชะลอตัวรวมทั้งผลกระทบจากปัจจัยความขัดแย้งไทย-กัมพูชา

ทั้งนี้เศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายของปีและต้นปีหน้าอาจมีความผันผวนสูง โดยเฉพาะภาคส่งออกที่จะได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐชัดเจน และการแข่งขันที่สูงขึ้นจากประเทศคู่แข่ง ซึ่งแตกต่างกันในแต่ละประเภทสินค้าและการจัดเก็บ Stock คงค้างที่ไม่เท่ากัน

กกร. เห็นว่าไทยยังขาดข้อมูลสำคัญด้านโครงสร้างการผลิตรายอุตสาหกรรม เช่น การใช้วัตถุดิบขั้นต้นและขั้นกลางในประเทศ รวมถึง Regional Value Content ซึ่งภาคเอกชนได้เริ่มสำรวจและเก็บข้อมูลพื้นฐาน เพื่อให้สามารถปฏิบัติได้ตามเงื่อนไขการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้มีฐานข้อมูลที่ครบถ้วนและเชื่อถือได้ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากภาครัฐ และหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง เพื่อการตัดสินใจและเจรจาภายใต้การค้าโลกรูปแบบใหม่ (New Trade Paradigm) บทบาทของไทยในอาเซียน สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยในเวทีการค้าโลก

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า หลังจากหารือกับ 47 กลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งพบว่ามี 17 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้สัดส่วนในประเทศ (Local Content) มากกว่า 40% เช่น บางกลุ่มอย่างกลุ่มไม้อัด หลังคา เกษตร อาหาร ใช้ Local Content สูงถึง 80% กลุ่มยานยนต์ กลุ่มอัญมณี 60% ส่วนกลุ่มที่น่าห่วงคือ กลุ่มยา เครื่องสำอาง ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เหล็ก โรงกลั่น ปิโตรเลียม ซึ่งมี Local Content ยังต่ำอยู่ แต่แน่นอนว่าประเทศไทยต้องพัฒนาปรับตัว ที่สำคัญประเทศไทยได้เปรียบของการมีอุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ ทำให้การจะใช้ Local Content สามารถทำได้แต่ต้องใช้เวลา

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เรื่อง Local Content เป็นแค่เรื่องเดียวในเงื่อนไขที่เราได้ภาษี 19% กลับมา และตอนนี้เรายังต้องรอรายละเอียดจากทางสหรัฐ ว่าจะกำหนดทั้งเรื่อง Local Content และเรื่องการใช้ RVC เท่าไร ซึ่งยอมรับว่าถ้า 40% ทำได้ 50% พอทน 60% ยาก


แหล่งที่มา : ประชาชาติธุรกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.