กกร. หลังเจรจากับทรัมป์สำเร็จที่ 19% ทำบรรยากาศเศรษฐกิจดีขึ้น คาด GDP โตได้ในกรอบเพิ่มเป็น 1.8-2.2% ส่งออกอยู่ที่ 2-3% แม้ครึ่งปีหลังจะยังต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงอีกมาก ด้านอุตสาหกรรมกังวลบางกลุ่ม Local Content ไม่ถึง 40% หนึ่งในเงื่อนไขทรัมป์บีบให้ต้องถึง 60%
นายผยง ศรีวนิช ประธานกรรมการสมาคมธนาคารไทย กล่าวในฐานะประธานที่ประชุม คณะกรรมการน่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เศรษฐกิจโลกมีทิศทางดีขึ้น หลังสหรัฐประกาศข้อตกลงด้านภาษีกับหลายประเทศ อัตราภาษีศุลกากรส่วนใหญ่ปรับลดลงกว่าที่สหรัฐประกาศเมื่อเดือนเมษายน โดยเฉพาะสำหรับประเทศในเอเชียและอาเซียน ประมาณการเศรษฐกิจโลกปี 2568
โดย IMF ปรับเพิ่มเป็นเติบโต 3% จากเดิม 2.8% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่อยู่ประมาณ 3.5% สะท้อนภาวะชะลอตัวจากผลของกำแพงภาษีสูง และความไม่ชัดเจนในรายละเอียดของการดำเนินการ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภาษีสินค้า Transshipment และการกำหนดสัดส่วน Local Content ของแต่ละประเทศ
ประเทศไทยต้องเร่งปรับตัวรับมือทั้งในระยะสั้น และการเปลี่ยนผ่านในระยะข้างหน้า ในระยะสั้นการแข่งขันด้านราคาจะเพิ่มขึ้นทั้งสินค้าที่ไทยส่งออกและสินค้าที่ขายในประเทศที่จะแข่งขันกับสินค้าที่ไทยเปิดตลาดนำเข้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะกระทบกลุ่มที่มี Margin ต่ำ และต้องเร่งสำรวจการใช้ Local Content เพื่อลดความเสี่ยงภาษี Transshipment รวมถึงบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในส่วนพิธีการศุลกากร และการตรวจสอบมาตรฐานสินค้าที่ขายในประเทศ
ขณะที่นโยบายการค้าของสหรัฐเป็น Wake-up Call ให้ไทยใช้โอกาสนี้ในการปรับตัวเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวของภาคเอกชน โดยเฉพาะ SMEs ทั้งการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม กำหนด Priority Sectors ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของประเทศ ยกระดับกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรมต้นน้ำเพื่อเพิ่ม Local Content เพิ่ม Productivity ลดต้นทุน ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม และยกระดับทักษะแรงงานการจ้างงานของแรงงานไทยในประเทศ แรงงานต่างด้าว และมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน
เศรษฐกิจไทยปี’68 มีแนวโน้มขยายตัวได้ที่ 1.8-2.2% ปรับเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมที่ 1.5-2.0% ส่วนการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัว 2-3% สูงกว่าประมาณการเดิมเช่นกัน โดยความสำเร็จจากการเจรจาการค้าส่งผลให้ไทยถูกเรียกเก็บภาษีที่ 19% แทน 36% ซึ่งยังต้องให้ความสำคัญกับรายละเอียดที่ต้องมีการเจรจากันต่อไป เบื้องต้นทำให้ไทยไม่เสียเปรียบประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็น Worst Case Scenario
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มชะลอตัว โดยการส่งออกแผ่วลงหลังหมดปัจจัยชั่วคราวจากการเร่งส่งออก การแข่งขันด้านราคาที่มากขึ้น ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นรวมถึงปัญหาเศรษฐกิจนอกระบบ และกำลังซื้อของผู้บริโภคสหรัฐที่ลดลงจากเงินเฟ้อ ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวชะลอตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะ Short Haul ที่ชะลอตัวรวมทั้งผลกระทบจากปัจจัยความขัดแย้งไทย-กัมพูชา
ทั้งนี้เศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายของปีและต้นปีหน้าอาจมีความผันผวนสูง โดยเฉพาะภาคส่งออกที่จะได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐชัดเจน และการแข่งขันที่สูงขึ้นจากประเทศคู่แข่ง ซึ่งแตกต่างกันในแต่ละประเภทสินค้าและการจัดเก็บ Stock คงค้างที่ไม่เท่ากัน
กกร. เห็นว่าไทยยังขาดข้อมูลสำคัญด้านโครงสร้างการผลิตรายอุตสาหกรรม เช่น การใช้วัตถุดิบขั้นต้นและขั้นกลางในประเทศ รวมถึง Regional Value Content ซึ่งภาคเอกชนได้เริ่มสำรวจและเก็บข้อมูลพื้นฐาน เพื่อให้สามารถปฏิบัติได้ตามเงื่อนไขการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้มีฐานข้อมูลที่ครบถ้วนและเชื่อถือได้ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากภาครัฐ และหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง เพื่อการตัดสินใจและเจรจาภายใต้การค้าโลกรูปแบบใหม่ (New Trade Paradigm) บทบาทของไทยในอาเซียน สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยในเวทีการค้าโลก
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า หลังจากหารือกับ 47 กลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งพบว่ามี 17 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้สัดส่วนในประเทศ (Local Content) มากกว่า 40% เช่น บางกลุ่มอย่างกลุ่มไม้อัด หลังคา เกษตร อาหาร ใช้ Local Content สูงถึง 80% กลุ่มยานยนต์ กลุ่มอัญมณี 60% ส่วนกลุ่มที่น่าห่วงคือ กลุ่มยา เครื่องสำอาง ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เหล็ก โรงกลั่น ปิโตรเลียม ซึ่งมี Local Content ยังต่ำอยู่ แต่แน่นอนว่าประเทศไทยต้องพัฒนาปรับตัว ที่สำคัญประเทศไทยได้เปรียบของการมีอุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำ ทำให้การจะใช้ Local Content สามารถทำได้แต่ต้องใช้เวลา
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เรื่อง Local Content เป็นแค่เรื่องเดียวในเงื่อนไขที่เราได้ภาษี 19% กลับมา และตอนนี้เรายังต้องรอรายละเอียดจากทางสหรัฐ ว่าจะกำหนดทั้งเรื่อง Local Content และเรื่องการใช้ RVC เท่าไร ซึ่งยอมรับว่าถ้า 40% ทำได้ 50% พอทน 60% ยาก